เทคโนโลยีการศึกษา

ASSURE Model   

          ASSURE Model   เป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้ผู้สอนเกิดความมั่นใจที่จะใช้สื่อการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้สูงสุดตามความสามารถของแต่ละคน  ถูกนำเสนอโดย Heinich, Molenda and Russell  ในปี 1985  มีรายละเอียดของโมเดลมีดังนี้
                   A : Analyze Learner Characteristic
                   S : Stat Objective
                   S : Select, Modify or Design Materials
                   U : Utilize Materials
                   R : Require Learner Response
                   E : Evaluation

A : Analyze Learner Characteristic วิเคราะห์ผู้เรียน
            การวิเคราะห์ผู้เรียน  จะทำให้ผู้สอนเข้าใจลักษณะของผู้เรียนและสามารถเลือกใช้สื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนและบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน  วิเคราะห์ใน 2 ลักษณะ คือ
            1.  ลักษณะทั่วไป ได้แก่   เพศ  อายุ  ชั้นปีที่เรียน  ระดับสติปัญญา  ความถนัด  วัฒนธรรม สังคม  ฯลฯ
            2.  ลักษณะเฉพาะ  เป็นลักษณะที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะสอน ได้แก่ ความรู้และทักษะพื้นฐานของผู้เรียน   ทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียน  เช่น ทักษะด้านภาษา  คณิตศาสตร์ การอ่าน  และการใช้เหตุผล

 S : Stat Objective  กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนการสอน
วัตถุประสงค์การเรียนการสอน ควรจะเป็นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม  ที่กำหนดความสามารถของผู้เรียนว่าจะทำอะไรได้บ้าง  ในระดับใด  และภายใต้เงื่อนไขใดไว้อย่างชัดเจน  เพื่อให้สามารถเลือกใช้วิธีการสอนและสื่อการเรียนการสอนได้เหมาะสม  ควรครอบคลุมวัตถุประสงค์ทางการศึกษาทั้ง 3 ด้าน  คือ  ด้านพุทธิพิสัย  ด้านจิตพิสัย  และด้านทักษะพิสัย

S : Select, Modify or Design Materials  การกำหนดสื่อการสอน
             1.  การเลือกสื่อการเรียนการสอน   โดยเลือกสื่อการเรียนการสอน  ที่มีอยู่แล้วจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอน 
             2. การปรับปรุงสื่อการเรียนการสอน  โดยพิจารณาสื่อที่มีอยู่แล้วว่าสามารถนำมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การเรียนการสอนได้หรือไม่
             3. การออกแบบสื่อการเรียนการสอน

U : Utilize Materials    ใช้สื่อการเรียนการสอน
 ขั้นตอนการใช้สื่อการเรียนการสอน  มีขั้นตอนที่สำคัญอยู่ 4 ขั้นตอน คือ
             1.   ทดลองใช้  ตรวจสอบและทดลองใช้ดูว่ามีปัญหา
             2.   เตรียมสภาพแวดล้อม มีการเตรียมสถานที่  สิ่งอำนวยความสะดวก  แสง  การระบายอากาศ  ให้เหมาะสมกับการใช้สื่อการสอนแต่ละชนิด
             3.   เตรียมผู้เรียน มีการเตรียมผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนเรื่องนั้น  อาจเร้าความสนใจ  หรือเน้นจุดที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ  ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ผู้เรียนมีเป้าหมายในการฟังหรือดูสิ่งที่ผู้สอนนำเสนออันจะนำไปสู่การเรียนรู้ที่ดีได้
             4.   การนำเสนอ

 R : Require Learner Response  ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ผู้สอนต้องจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนให้มากที่สุด  และในขณะเดียวกันผู้สอนก็ต้องมีการเสริมแรงไปพร้อม ๆ กัน

 E : Evaluation  ประเมินผลกระบวนการเรียนการสอน
เป็นการประเมินผลกระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้สอนทราบว่า  การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์มากน้อยเพียงใด  ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาวิธีการสอนและการใช้สื่อการเรียนในครั้งต่อ ๆ ไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างการออกแบบการใช้สื่อตามหลักของ ASSURE Model  บูรณาการในวิชาวิทยาศาสตร์เรื่องระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์
1.วิเคราะห์ผู้เรียน (Analyze Learners)
1) ข้อมูลทั่วไปของนักเรียน  : นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  โรงเรียนวิทยานุสรณ์ มีนักเรียนทั้งหมด 20คน เป็นนักเรียนหญิง 12 คน และนักเรียนชาย 8  คน
2) ข้อมูลเฉพาะของนักเรียน
     1) ประสบการณ์เดิม : นักเรียนเรียนรู้ว่าการเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการปฏิสนธิ ระหว่างสิ่งมีชีวิตเพศผู้และเพศเมีย
     2) เจตคติ : นักเรียนส่วนใหญ่คิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอาย  ไม่กล้าที่จะทำความเข้าใจหรือซักถาม 
     3) ความรู้พื้นฐาน : นักเรียนได้เรียนรู้ในเรื่องการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของสิ่งมีชีวิต และรูปแบบการปฏิสนธิของสิ่งมีชีวิต ทั้งการปฏิสนธิภายนอกและการปฏิสนธิภายใน

2.การกำหนดจุดประสงค์ (State Objectives)
1)นักเรียนสามารถบอกชื่ออวัยวะและหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ในเพศชายและเพศหญิงได้
2)นักเรียนสามารถอธิบายขั้นตอนการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียได้

3.การกำหนดสื่อการเรียนการสอน (Select Methods and Materials)
สื่อที่ใช้ในการกำหนดเนื้อหาในการเรียนการสอน : หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สื่อการนำเสนอภาพและเนื้อหาประกอบการบรรยาย : โปรแกรมการนำเสนอ Microsoft PowerPoint  โดยนำเสนอเนื้อหาในเรื่องอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์และการปฏิสนธิของมนุษย์
ตัวอย่างภาพสื่อ

ระบบสืบพันธุ์เพศชาย









ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง

วิดีโอเกี่ยวกับการปฏิสนธิของมนุษย์และการเจริญของตัวอ่อนในครรภ์

เนื้อหา
ชนิดของสื่อ
วัตถุประสงค์ของการใช้สื่อ
เทคนิคการใช้สื่อ
การตอบรับของผู้เรียนในการใช้สื่อ
ผลการเรียนภายหลังการใช้สื่อ
การปฏิสนธิในมนุษย์
หนังสือเรียน
-กำหนดกรอบเนื้อหาในการสอน
ใช้เป็นหนังสืออ่านเพิ่มเติม
ผู้เรียนค่อนข้างให้ความสนใจน้อย
ทราบเพียงเนื้อหาที่มีในบทเรียน
อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์และการปฏิสนธิของมนุษย์
PowerPoint
-นำเสนอภาพที่ชัดเจนและน่าสนใจเกี่ยวกับอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์
นำเสนอพร้อมการอธิบายภาพ ใช้การถามตอบประกอบกับการนำเสนอภาพ
ได้รับความสนใจค่อนข้างมากจากการนำเสนอภาพสื่อ
นักเรียนสามารถจดจำภาพและชื่ออวัยวะได้และสามารถจำจำหน้าที่ได้บ้าง
การปฏิสนธิของมนุษย์และการเจริญของตัวอ่อนในครรภ์
วิดีโอ
-ใช้ภาพเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มความเข้าใจในลำดับขั้นตอนและเพิ่มความน่าสนใจของเนื้อหา
เป็นการบรรยายประกอบกับภาพเคลื่อนไหว
ได้รับความสนใจค่อนข้างมากเนื่องจากภาพและเสียงน่าตื่นตาตื่นใจ
นักเรียนสามารถจดจำพื้นในการปฏิสนธิและสามารถอธิบายได้อย่างเป็นขั้นตอน

              4.กิจกรรมการใช้สื่อการเรียนการสอน (Utilize Media and Methods)
การใช้สื่อประกอบการสอนของผู้สอน :ในการเรียนเรื่องการปฏิสนธิของมนุษย์มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเน้นในเรื่องของภาพและการเลื่อนไหวเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในร่างกายจึงไม่สามารถสอนให้เห็นของจริงได้ดังนั้นจึงต้องมี PowerPoint และ วิดีโอประกอบ เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น  เมื่อผู้สอนนำโปรแกรม  PowerPoint  และ วิดีโอ มาเป็นสื่อการสอนดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่ออำนวยความสะดวกคือคอมพิวเตอร์  โปรเจคเตอร์  ไมค์ และเครื่องเสียง  เพื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพ
การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน : เป็นการหาความรู้เพิ่มเติมนอกจากที่ได้สอนไปไหนห้องเรียนโดยใช้ หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.2 เล่ม 2

               5.การกำหนดพฤติกรรมตอบสนองของผู้เรียน(Require  Learner Participation)
                ผู้สอนสามารถจัดการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับกิจกรรม โดยการถามตอบจากภาพที่ปรากฏ  และสามารถทดสอบการเกิดการเรียนรู้ได้โดยให้ผู้เรียนได้ลองอธิบายลำดับขั้นตอนต่างๆ หรือแม้แต่การถามเฉพาะจุดว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงตามมาอย่างไร  นอกจากนี้ยังสามารถจัดการทดสอบเพื่อให้ทราบว่าจุดใดหรือเนื้อหาส่วนใดที่ผู้เรียนยังเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจผิดไป

              6.การประเมินผล(Evaluation)
6.1 การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
-  ประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนโดยการถามตอบและการทำแบบทดสอบหลังจากผ่านการเรียน
-  ประเมินการมีส่วนร่วมของผู้เรียนในระหว่างการเรียนการสอนโดยการถาม ตอบ  และการแสดงความคิดเห็น
-  การประเมินเทคนิคในการสอนว่ามีความเหมาะสมกับเนื้อหาและระดับของผู้เรียนหรือไม่  ผู้เรียนมีความสนใจในเนื้อหาที่นำมาเสนอหรือไม่
6.2 การประเมินสื่อและวิธีใช้
- การประเมินสื่อว่ามีความเหมาะสมกับเนื้อหาที่สอนและระดับของผู้เรียนหรือไม่  ผู้เรียนมีความสนใจในสื่อที่นำมาเสนอหรือไม่
6.3 การประเมินกระบวนการเรียนการสอน
                -ประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยการทดสอบความรู้พื้นฐานในการถามตอบ  และทดสอบความรู้ที่จะเรียนโยการถามความคิดเห็นเพื่อดูว่าผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหามากน้อยเพียงใดก่อนที่จะเริ่มเรียน  และทดสอบหลังเรียนด้วยการทำแบบทดสอบ
                -ประเมินสื่อและวิธีการสอนจากการถามตอบ เนื้อหาจากภาพหรือวิดีโอ  หรือแม้แต่สังเกตการแสดงออกถึงความสนใจในสื่อของผู้เรียน

ความคิดเห็น